สำหรับการแต่งกายของสตรีมุสลิมในประเทศมุสลิมที่ใช้การปกครองตามหลักการอิสลามจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสังคม
รสนิยม วัฒนธรรม และประเพณี ตลอดจนนโยบายของแต่ละประเทศ
ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
เช่นประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกกลางนิยมสวมเครื่องแต่งกายสีดำและสีโทนเข้ม
ในขณะที่ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน ฯลฯ
นิยมสวมเครื่องแต่งกายสีฉูดฉาดและหลายหลากสี
การแต่งกายของสตรีชาวอิหร่าน
รัฐบาลอิหร่านสนับสนุนให้สตรีชาวอิหร่านสวมใส่ฮิญาบ
(Hejab) ที่เป็นชุดประจำชาติที่เรียกว่าชาโดร (Chador)
ซึ่งเป็นผ้าคลุมครึ่งวงกลมสีดำยาวไม่มีแขน และสไตล์ใหม่เป็นแบบมีแขนคล้ายชุดคลุมยาวทั่วไป
โดยจะสวมใส่ทับบนเครื่องแต่งกายอีกชั้น แต่ไม่เป็นการบังคับใครจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
โดยทั่วไปสตรีชาวอิหร่านจะแต่งกายด้วยชุดที่เรียบร้อย
สีไม่ฉูดฉาด โดยเฉพาะในสถานที่ราชการ ผู้หญิงจะต้องสวม "มอนโต"
หรือเสื้อคลุมยาวเลยเข่าเล็กน้อยหรือเสื้อคลุมยาวถึงตาตุ่มแขนเสื้อยาว และสวม
"มักนาเอ่ะ"
ซึ่งมีลักษณะคล้ายผ้าพันคอที่เย็บติดด้านหน้าซึ่งคลุมตั้งแต่ศรีษะถึงหัวไหล่
โดยทั้งสองชุดนี้ต้องมีสีเข้มไม่ฉูดฉาด
อย่างไรก็ดี
ปัจจุบัน สตรีชาวอิหร่านเริ่มหันมาให้ความสนใจกับแฟชั่นเสื้อคลุมที่จะสวมใส่เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่มีฐานะและผู้ที่มีฐานะทางสังคมในกรุงเตหะราน
โดยสตรีอิหร่านจะสวมเสื้อคลุม "มอนโท" ที่มีสีสันหลากหลายมากขึ้น
และมีแบบหรือสไตล์ต่างๆ ที่สวยงาม ทั้งนี้จะใช้ผ้าพันหรือผ้าโผกศรีษะที่มีสีสัน
เพื่อให้เข้ากับชุดที่ใส่
นอกจากนี้
สตรีที่มีฐานะและกลุ่มวัยรุ่นสตรีในกรุงเตหะรานมักนิยมแต่งหน้าให้สวยงาม เช่น
ทาลิปสติก ทาเล็บ
ย้อมผมและใช้เครื่องสำอาง ในสถานที่สาธารณชน
ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมอิหร่านเท่าไรนัก นอกจากนี้
แบบหรือสไตล์การแต่งกายของกลุ่มวัยรุ่นสตรีอิหร่านและ
กลุ่มนักศึกษาจะเริ่มเน้นความนำสมัยเป็นหลัก
โดยจะโผกผ้าพันศรีษะที่เผยให้เห็นผมบ้างบางส่วน และใส่เสื้อคลุมแขนยาวสามส่วน
นอกจากนี้สตรีอิหร่านส่วนมากร้อยละ 96 นิยมนุ่งกางเกงยีนส์ที่ทันสมัย
สวมกับเสื้อคลุมยาวไม่ว่าจะเป็นแบบที่ยาวถึงหัวเข่า หรือเสื้อคลุมแบบยาวถึงตาตุ่ม
มีสตรีอิหร่านน้อยมากที่นุ่งกระโปรงกับเสื้อคลุม ซึ่งต่างจากสตรีชาวตุรกี มาเลเซีย
และประเทศอื่นๆ นอกจากนี้
สตรีชาวอิหร่านนิยมสวมรองเท้าที่มีรูปแบบทันสมัยอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น