วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมการแต่งกายอัฟกานิสถาน

  การแต่งกายของแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกันคะ จะแตกต่างกันออกไปเพราะว่าบางประเทศก็ถือสรีระเป็นสำคัญเพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมได้คะ   ดังเช่นประเทศอัฟกานิสถานคะ
          บุรกาชุดผ้าคลุมทั้งตัวที่เป็นมรดกจากกลุ่มตอลีบันผู้เคยบังคับให้ผู้หญิงใส่ถูกหลายคนมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่ผู้หญิงที่ตกค้างมาจากยุคเผด็จการ ชายชาวอัฟกานิสถานพากันเดินขบวนสวมชุดบุรกาเพื่อต้องการเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกบังคับให้สวมประเทศมุสลิมหลายประเทศไม่มีกฎข้อบังคับให้สวมใส่บุรกาและในบางประเทศก็สั่งห้ามเครื่องสวมใส่ชนิดนี้ ขณะที่บางประเทศส่งเสริมเครื่องแต่งกายอีกชนิดหนึ่งคือฮิญาบ ในปี 2552 โมฮัมหมัด ทันทาวี นักวิชาการอิสลามจากมหาวิทยาลัยอัลอัสชาร์ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอิสลามที่ใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ในอียิปต์ประกาศว่าไม่จำเป็นที่สตรีต้องมีการปกคลุมใบหน้าภายใต้ข้อบังคับของอิสลามและเครื่องแต่งกายต่างๆ เป็นเรื่องวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีของอัฟกานิสถานมีการบังคับให้สวมบุรกาขณะอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มติดอาวุธตอลีบัน แม้ว่าในปัจจุบันจะไม่มีการสั่งห้ามดังกล่าวแล้วแต่ก็ยังคงมีผู้คนสวมใส่อยู่เนื่องจากแรงกดดันทางสังคม มีคนส่วนหนึ่งเชื่อว่าการสวมชุดที่คลุมหน้ามิดชิดจะช่วยลดอาชญากรรมทางเพศและไม่ส่งเสริมการค้าประเวณี อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของสหประชาชาติเมื่อปี 2556 ระบุว่าความรุนแรงต่อสตรีส่วนใหญ่มักจะไม่ได้รับการรายงานโดยเฉพาะในเขตชนบท
ที่มา https://prachatai.com/journal/2015/03/58260

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทไต้หวัน



  สำหรับ"เสื้อผ้า”นะคะ  ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้นคะ แต่เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศคะ อย่างเช่นประเทศไต้หวันคะ
      ไต้หวันเป็นภาษาจีน เดิมชื่อ ฟอร์โมซา เป็นภาษาโปตุเกส แต่ก่อนไต้หวันอยู่ในความ ปกครองของจีน เริ่มมีชาวจีนจากกวางตุ้ง และฟูเรียน อพยพเข้ามาอยู่ตามบริเวณฝั่ง ต่อมาก็มี ชาวตะวันตกเข้ามา เช่น ชาวโปตุเกส ดัทช์ สเปน ต่อมาชาวดัทช์กับชาวสเปนเกิดสงครามแย่งชิง ดินแดนกัน ชาวสเปนแพ้จึงยกทัพหนีไป ชาวดัทช์ หรือฮอลันดาก็ยึดครองเกาะไต้หวัน ประมาณ 38 ปี ต่อมาประเทศจีนเกิดสู้รบกันระหว่างราชวงค์หมิงและราชวงค์แมนจู กษัตริย์ราชวงค์หมิง กลัวราชวงค์แมนจูจะยึดแผ่นดินจีน จึงนึกถึงเกาะไต้หวัน จึงส่งกองทัพไปยึดเกาะไต้หวันคืนจาก ชาวดัทช์ได้ ต่อมาญี่ปุ่นได้ยึดเกาะไต้หวันได้อีก เนื่องจากประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเกาะ ไต้หวันมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่ชาวไต้หวันจึงรับเอาวัฒนธรรมจากชาวจีนและญี่ปุ่นบ้าง และเจ้า ของเดิมซึ่งมีทั้งชาวเล และชนเผ่าเกาซาน ซึ่งมีเชื้อสายพวกฮั่นเก่า มีการสักบนใบหน้าบางเผ่าก็ แต่งกายประดับประดางดงาม นิยมแบบอย่างชาวจีน ส่วนใหญ่สตรี สวมชุดกี่เพ้า คือ สวมเสื้อป้า ยอก คอตั้งและกระโปรงจะผ่ามาเหนือเข่าทั้ง 2 ข้าง ปัจจุบันจะแต่งกายตามชุดสากลนิยมแล้วเพื่อ ความสะดวก

ที่มา: https://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/07_19.html

วัฒนธรรมการแต่งกายปากีสถาน

   "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ

      ปากีสถาน มีชื่อเต็มคือ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ปากีสถานมีความเจริญมาแต่ยุค โบราณ ทางด้านการค้า ศิลปวัฒนธรรม เมืองหลวงเก่าคือ การาจี แล้วเปลี่ยนมาสร้างเมืองหลวง ใหม่ในภาคเหนือคือ อิสลามาบัด ได้ชื่อว่าเป็นประเทศมุสลิม มีพลเมืองนับถือศาสนาอิสลาม หนาแน่นที่สุดเหมือนอินเดีย มีสินค้าที่มีชื่อ คือ ผ้ามัสลิน

สิ่งทอปากีสถาน 
สิ่งทอของปากีสถาน จะมีความหลากหลายในแต่ละท้องที่ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก
  • การผสมผสานของรูปแบบสิ่งทอเฉพาะของจังหวัดและแพร่ออกไปสู่ตามบริเวณชายแดน
  • การย้ายถิ่นฐาน
  • การย้ายของผู้คนจากประเทศต่าง ๆ เช่น อิทธิพลของชาวกรีก พวกมุสลิมในตุรกี
  • การมีความสัมพันธ์กับต่างชาติ เช่น จีน และเอเซียกลาง
การแต่งกาย 
การแต่งกายจะประดับด้วยดอกไม้ แก้วแหวนเงินทอง นุ่งกระโปรงจีบสีดำ ห่มผ้าสีดำ ปักลวดลายด้วยไหมสีต่าง ๆ ใส่ตุ้มหู กำไล สร้อยคอ ชายจะแต่งกายคล้ายชาวอินเดีย ใช้ผ้า มัสลินตัดเสื้อตัวหลวม โพกศีรษะ
การแต่งกายของชาวปากีสถาน 

ที่มา: https://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/07_10.html

วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศตุรกี

สำหรับการแต่งกายชาวตุรกี ผู้หญิงจะเป็นชุดกระโปรงบานยาว และเสื้อแขนยาวแต่งกายมิดชิด แต่ไม่ถึงกับปิดหน้าปิดตาคล้ายชนชาติ อิสลาม      การแต่งกายของชายประกอบไปด้วยเสื้อ เชิ้ต ตัว ใส่ Tunic หรือไม่ก็ใส่เสื้อ รัดรูป (Doublet) กับกางเกงรัดรูป (Hose) มีเสื้อคลุมทับ Doublet เรียกว่า Pourpoint เสื้อเชิ้ต นั้น จะตัด จากผ้าลินินที่ทำให้มีความพองมาก ๆ และรวบไว้ที่รอบคอและรอบข้อมือ คอเสื้อจะมีทั้งคอกลม และคอวี และคอสี่เหลี่ยม ซึ่งมีมาก่อน ค.ศ. 1500-1525 เป็นลักษณะที่มีระบายเล็ก ๆ โดยรอบ ต่อมาเปลี่ยนมาเป็นแบบ Ruff (เป็นรอยพับ) ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 และเสื้อรัดรูป เปลี่ยนเป็นใช้ Tunic ชนิดสั้น แล้วสวมเสื้อนอกมีแขน ปลายแขนแคบ โคนแขนพองรัดเป็นปล้อง ๆ ทำตอนบนของแขนให้พอง 
          เสื้อคลุมค่อนข้างสั้น คลุมชุด Tunic ที่มีลักษณะหลวมและมีเข็มขัดรัดไว้มีจีบรูด คอเสื้อ กลมหรือเหลี่ยม มีแขนยาว แขนเสื้อสามารถถอดออกจากตัวเสื้อได้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การแต่งกายประเทศตุรกี

ที่มา: http://thenational2836.blogspot.com/p/1.html
 



วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศคูเวต

                
            สำหรับ   "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ

         การแต่งกาย : คนคูเวต (Kuwaiti) มักจะใส่ชุดประจำชาติไม่ว่าจะไปทำงานหรือว่าเที่ยวเล่น สำหรับผู้ชายจะเป็นชุดสีขาวยาวคลุมทั้งตัว เรียกว่า “ดิชแดชชะ” และมีที่สวมหัวเป็นสีขาวมีที่ครอบสีดำ เรียกว่า “กัตระ” สำหรับผู้ชายไม่ใช่ข้อบังคับทางศาสนาแต่อย่างใดจะใส่ก็ได้หรือไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ ส่วนผู้หญิงมีข้อบังคับทางศาสนาว่าต้องใส่เสื้อผ้าคลุมถึงข้อมือและข้อเท้า และปิดบังผมให้มิดชิดด้วย เพราะฉะนั้นถ้าผู้หญิงที่เคร่งศาสนาหน่อย จะใส่ชุดคลุมยาวสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า เปิดไว้แต่หน้าเรียกว่า “อาบายา” แต่ถ้าไม่เคร่งมากนัก ก็จะใส่ชุดลำลองตามปกติเพียงแต่แขนยาวขายาวและพันผ้าคลุมผมให้มิดชิด เรียกว่า “ฮิจาบ”
ที่มา: https://thapakornkotpoo.wordpress.com/2016/02/17/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%95-kuwaiti/

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศติมอร์-เลสเต


ฟิลิปปินส์

         "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ


               ชุดประจำชาติติมอร์ตะวันออก มีสิ่งสำคัญ คือ ผ้าทอ เรียกว่า tais ของผู้ชายจะผืนเล็กกว่า เรียก tais mane ส่วนของผู้หญิงผืนใหญ่กว่าเ รียก tais feto เป็นแหล่งทอผ้าที่มีลวดลาย และสีสันที่สวยแห่งหนึ่งของโลก
การทอผ้าถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ผ้าทอของชาวติมอร์ใช้ฝ้ายอันเป็นมรดกที่ชาวโปรตุเกสนำเข้ามาตั้งแต่ศตวรรษที่16 และใช้สีธรรมชาติในการย้อมสี เช่น ขมิ้น มะม่วง ใบมันสำปะหลัง เป็นต้น การนุ่งห่มนั้นจะนุ่งเป็นกระโจมอก อาจจะมีผ้าคล้องคอ ใส่เครื่องประดับที่ทำจากปะการัง และเครื่องประดับต่างๆ

ที่มา: https://nooornchurue.wordpress.com/2013/09/10/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4/

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศรัสเซีย



   "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ

Национальный костюм (นาเซียลนัลนืย กาสตียูม) ชุดประจำชาติของประเทศรัสเซีย ผู้หญิงจะสวม Коко́шник (กาโกชนิก) มีลักษณะเป็นหมวก หรือที่คาดผม ซึ่งตกเเต่งด้วยมุก อัญมณี หรือลูกปัด ให้เข้ากับ Сарафа́н (ซาราฟัน) คือชุดกระโปรงยาวยกอก แบบมีผ้ากันเปื้อนด้านหน้าสีสันสวยงามส่วนผู้ชาย จะสวมเสื้อแขนยาวสีขาวเนื้อบาง กางเกงขายาวสีดำมีผ้าคาดเอว
ที่มา: https://manaschanokblog.wordpress.com/2016/02/12/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2/

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศอาร์มีเนีย

แต่ละประเทศมีประเพณีของตัวเองเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและในแต่ละของพวกเขาแต่งกายชาติของพวกเขาวันนี้เราพูดคุยเกี่ยวกับชุดที่น่าสนใจที่สุดและมีสีสันเสื้อผ้าแห่งชาติอาร์เมเนียเป็นองค์ประกอบของการดำเนินชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในประเทศนี้เครื่องแต่งกาย, เสื้อผ้า, ชุด - คำเหล่านี้มีความหมายเหมือน Taraz เป็นมันหมายถึงลัก
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การแต่งกาย ประเทศอาร์เมเนีย

ที่มา: http://familysis.com/th/pages/115134

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศเลบานอน

Miss Universe 2011
   "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ
การแต่งกาย
จะคล้ายชุดราตรี  มีหมวกด้านบนคล้ายแม่มด



https://sasiwimon2016.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99/

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศกาตาร์

           "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ
"สำหรับประเทศกาตาร์นะคะเป็นประเทศอิสลาม ดังนั้นนักท่องเที่ยวผู้หญิง ควรแต่งกายให้มิดชิดปิดไหล่ปิดขา เลี่ยงการใส่มินิสเกิร์ตและกางเกงขาสั้น ห้ามนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นเรื่องผิดกฏหมายควรรักควรหลีกเลี่ยงการแสดงออก เช่นการจับมือ กอดจูบ เนื่องจากวัฒนธรรมที่ประเทศกาตาร์ไม่อนุญาติ"



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การแต่งกายประเทศกาตาร์


http://www.holidaythai.com/qatar-Guide-187.htm

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศไซปรัส

            แต่ละประเทศมีประเพณีของตัวเองและกฎระเบียบถึงแม้จะมีความเคารพสำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศที่แตกต่างกันเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของบางส่วนของกฎที่มีความเข้มงวดมากเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและไม่ได้มีส่วนร่วมในความขัดแย้งในต่างประเทศที่จะเดินทางคุณจะต้องเรียนรู้กฎของการดำเนินการและความต้องการสำหรับเสื้อผ้าในรัฐนี้

1    เกาะไซปรัส - สถานที่ที่จะอยู่บนสวรรค์เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงฤดู​​ร้อน - เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมคนบนชายหาดของประเทศไซปรัสมักจะพักผ่อนในกางเกงขาสั้นสั้นที่ดีที่สุดที่กำลังมองหาที่ร่างแข็งแรงคุณสามารถอาบแดดและว่ายน้ำในกางเกงว่ายน้ำหรือกางเกงขาสั้น, กางเกงขาสั้นยาวอย่าลืมหมวกเบสบอลเพื่อป้องกันศีรษะของคุณจากดวงอาทิตย์แผดจ้า
2     ผู้หญิงบนชายหาดชุดความหลากหลายของชุดว่ายน้ำ - ร่วมแยก Svim ชุด (กับกระโปรงสั้น) กิชุดว่ายน้ำเพียงผสมสตริงสำหรับประเทศนี้ไม่เหมาะอย่างสิ้นเชิง
3     สำหรับอาบแดดเปลือยมันบนชายหาดของไซปรัสที่ไม่ได้ห้าม แต่ดูเหมือนท้าทายมาก - และจากจุดคุณธรรมของมุมมอง (ในความเป็่น่าสนใจมากเกินไปในท้องถิ่นชายหาดนอกจากนี้เพื่อสุขภาพของผู้หญิงที่จะอาบแดดเปลือยชุดว่ายน้ำเป็นอันตรายมาก
4     ฤดูกาลท่องเที่ยวในประเทศไซปรัสผู้หญิงไปในชุดเสื้อผ้าผู้หญิงธรรมดา - เสื้อ, ชุดที่แตกต่างกันของรูปแบบและความยาว, เสื้อยืดกางเกงขาสั้น (ไม่สั้นเกินไป), กระโปรง, กางเกงตู้เสื้อผ้าชายเมืองเป็นประชาธิปไตย - เสื้อยืดกางเกงและกางเกงขาสั้นสีที่แตกต่างกัน
5     ปรากฏเป็นหาดที่คนสวมเสื้อไม่แนะนำมันดูแปลกและถือว่าไม่สุภาพกับคนอื่น ๆแม้ว่าคุณจะร้อนมากในเมืองที่ควรจะวางอยู่บนเสื้อยืดเดียวกันจะไปสำหรับผู้หญิง - ในชุดว่ายน้ำ, แม้ว่าคุณจะสวมกางเกงขาสั้นหรือด้านบนโปร่งใส Pare เมืองไม่ควรจะปรากฏ
6     ก่อนที่จะไปเข้าไปในเมืองแม้จะอยู่ในห้องพักที่โรงแรมของตัวเองในการตรวจสอบและประเมินวิธีการที่คุณสวมใส่คิดว่าคุณไม่ได้ดูท้าทายและเร้าใจวิธีที่คุณสวมใส่จะขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณต่อคนอื่น ๆแน่นอนว่าเด็กสาวคนหนึ่งในเสื้อผ้าที่เปิดเผยจะดึงดูดจำนวนมากของมุมมองของผู้ชาย แต่ Cypriots สามารถเข้าใจผิดและความตั้งใจของคุณไม่ได้นำเสนอสิ่งที่คุณต้องการดังนั้นแต่งตัวไซปรัสที่คุ้มค่าและสวยงามเพราะนี้มีเงื่อนไขทั้งหมดนจริงบนชายหาดอาบแดดไม่เพียง แต่ผู้ใหญ่) และในแง่ของการประจำการที
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ชุดประจำชาติไซปรัส
ที่มา: https://sasiwimon2016.wordpress.com/418-2/

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศมัลดีฟส์

               มัลดีฟส์เป็นประเทศชนพื้นเมืองพวกแรกที่อาศัยอยู่ในมัลดีฟส์ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล คือ พวกดราวิเดียนและ สิงหล ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ ชาวมัลดีฟส์โบราณจึงนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก
         มัลดีฟส์อากาศร้อนทั้งปี ควรใส่เสื้อผ้าเป็นผ้าฝ้าย และผ้าลินิน เสื้อยืดที-เชิ้ต ใช้เสื้อผ้าบางเบา ใส่สบาย ไม่ร้อน คุณสามารถเดินเท้าเปล่าได้บนพื้นทรายที่นุ่มละเอียดทั่วรีสอร์ทที่พัก ถ้าจะเดินเที่ยวชมหมู่เกาะที่เป็นที่พักอาศัย ถนนส่วนใหญ่จะเป็นทรายพื้นราบ หรือที่มาเล่ ถนนสวนใหญ่จะเป็นถนนพื้นปู ซึ่งรองเท้าธรรมดาหรือรองเท้าแตะก็สามารถใส่ได้
ย1


แหล่งที่มา : HTTP://WWW.VACATIONZONE.CO.TH/INDEX_MALDIVE.ASP

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศอิสราเอล

        เราจะพามาประเทศอิสราเอลนะคะ  เยี่ยมตะวันออกประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนออร์โธดอกก็ควรจะจำได้ไม่เพียง แต่เกี่ยวกับกฎระเบียบของการดำเนินการ แต่ยังลักษณะที่ปรากฏในอิสราเอล เสื้อผ้าสบาย ๆ ที่คุ้นเคยเช่นในเทลอาวีฟไม่เป็นที่ยอมรับเพื่อเข้าชมกรุงเยรูซาเล็ม
โดยลักษณะการแต่งกายทั่วๆไปมีดังนี้คะ

1    ไม่แตกต่างกันมากจากประชาชนในท้องถิ่นในลักษณะที่มีความจำเป็นต้องทราบความต้องการของชาวอิสราเอลในเสื้อผ้าชุดที่เข้มงวดและผูกเป็นที่ยอมรับเฉพาะสำหรับการประชุมทางธุรกิจในระดับที่เหมาะสมสำหรับทุกอย่างอื่นที่ควรจะเป็นกางเกงยีนส์ปกติดีกางเกงขาสั้น, เสื้อยืด, เสื้อแสงและ sundressesชุดราตรีหรูหราควรจะสงวนไว้สำหรับการเยี่ยมชมประเทศในยุโรป
2    อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้ก็เพียงพอสำหรับทางประชาธิปไตยของชีวิตของเสื้อผ้ามีกฎของตัวเองซึ่งนำไปใช้กับการเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวผู้หญิงไม่ควรปรากฏในกางเกงยีนส์และมากขึ้นดังนั้นในกางเกงขาสั้นเครื่องแต่งกายที่ดีที่สุดสำหรับการทัวร์ศาสนากระโปรงยาวและเสื้อชั้นในที่ที่ควรจะมีการปรับลดไม่มีนอกจากนี้ยังมีความจำเป็นที่เป็นปิดไหล่และหน้าอกคุณสามารถใช้เสื้อสีขาวขุ่นหรือ tippets แสงอย่าลืมที่จะคลุมศีรษะของคุณด้วยผ้าเช

3     อิสราเอล เวลาที่ร้อนแรงที่สุดจากเมษายน-พฤศจิกายนในช่วงเวลานี้อุณหภูมิถึง 30 องศาเซลเซียสขึ้นไปดังนั้นการเดินทางจะดีกว่าที่จะใช้ไฟเพียงไม่กี่สิ่งที่เสื้อกันหนาวฤดูร้อนและเป็นหนึ่งในกรณีที่คุณมีการวางแผนเส้นทางเข้าไปในภูเขาในช่วงเย็นที่สำหรับการเดินในภูเขาสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ได้ จำกัด การเคลื่อนไหว
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การแต่งกายประเทศอิสราเอล


4      สำหรับวันของการเที่ยวชมสถานที่ให้เลือกขั้นตอนที่สะดวกและเป็นที่น่าพอใจ แต่สวมใส่รองเท้าทนทานเพราะใช้เวลาเดินจะมีจำนวนมากสำหรับการเปรียบเทียบทัวร์ของศูนย์ประวัติศาสตร์อาจนาน 5-6 ชั่วโมงดังนั้นในกรณีที่ไม่มีไม่ได้ใช้ส้นเท้าถนน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ประชากรหญิงในท้องถิ่นส่วนใหญ่ชอบที่จะสวมใส่แฟลตบัลเล่ต์, รองเท้าหรือรองเท้าผ้าใบ)เยี่ยมชมทัวร์กับรองเท้าส้นสูงที่คุณจะไม่เพียง แต่ดูแปลก ๆ แต่ยังใช้ความเสี่ยงของการบาดเจ็บในถนนปูของเมืองเก่า
ที่มา: http://wmglory.com/th/pages/351044

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศธิเบต


การแต่งกายชาวเอเซีย

สำหรับการแต่งกายชาวเอเซียมีวัฒนธรรมการแต่งกายที่แตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ ทำให้มีชุดการแต่งกายประจำชาติที่หลาหหลายขึ้นค่ะ สำหรับชุดการแต่งกายของชาวธิเบตมีดังนี้คะ

การแต่งกายธิเบต

ธิเบตเป็นประเทศที่มีพื้น ที่สูงกว่าระดับนำ้ทะเล ภูมิประเทศเป็นภูเขา อากาศหนาว ค่อนข้างแห้งแล้ง ธิเบตมีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายคลึงกับชาวจีนมาแต่ดั้งเดิม มีการปกครองที่มี ผู้ปกครองประเทศเป็นพระดำรงตำแหน่งสูงสุดทั้งการเมือง และศาสนา คือ ดาไลลามะเป็นทั้ง กษัตริย์ และพระสังฆราช เครื่องแต่งกายดาไลลามะจะครองจีวรเหลือง สวมหมวกโลหะ

การแต่งกายของชายหญิงชาวธิเบต แต่งเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใส่เสื้อคลุมขนแกะ ในฤดูหนาว ในฤดูร้อนหญิงจะห่มสาหรี่ผ้าธรรมดาหรือไหม เสื้อคลุมยาวแค่หัวเข่า สวมหมวกปีก ใส่รองเท้าผ้าหรือหนังสัตว์ หญิงที่เกิดในตระกูลสูงจะประดับกายด้วยสร้อยคอ แหวน ปิ่นปักผม ตุ้มหู ทุกคนจะมีกล่องใส่ตะกรุดและรูปเทวดาคล้องคอ ผู้ชายจะห้อยไว้ที่เอวถือว่าผู้มีกล่องนีจ้ะ มีเสน่ห์ การแต่งกายของธิเบตจะปนกันระหว่างอินเดีย และจีน แบ่งเป็น 2 ประเภท
ชุดไตรจีวร (กาสาวพักตร์) เป็นการแต่งกายของดาไลลามะ ใช้ผ้ายืนยาวที่นำเศษผ้า ซึ่งมีขนาดรูปร่าง และสีต่างกันมาต่อกันเป็นผืนสวมรองเท้าบูท สวมหมวกของพระ
ชุดประเพณี การแต่งกายมีแบบหลายอย่าง เช่น
วิธีใส่
ผู้หญิง นิยมพับปีกหมวกใหญ่ขึ้น เหลือไว้แต่ปีกหมวกด้านข้าง
ผู้ชาย
 นิยมพับปีกหมวกทั้งด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลังเหลือไว้แต่ปีกหมวก ด้านหน้า

เครื่องประดับ 
ผู้หญิง สิ่งประดับผมทำด้วยทอง เงิน และทองแดง เสริมด้วยหินปะการังกลางกระหม่อม ประดับด้วย “ปาจู” (ไข่มุกชนิดหนึ่ง) เปียยาวประดับไปด้วยเครื่องเงิน คอประดับด้วยสร้อยไข่มุก หรือสร้อยหินเขียว หน้าอกประดับด้วย “ข่าอู่” (จี้ต ลับทำด้วยเครื่องเงิน ข้างในบรรจุยันต์) ผ้าคาด หน้าท้อง (ปังเตี่ยน) มีสีเป็นสายรุ้ง คล้ายผ้ากันเปื้อน

  1. เสื้อคลุมยาวธิเบต ที่เห็นบ่อยที่สุด คือ แบบเอวกว้าง แขนยาว หน้าอกเสื้อใหญ่ แบ่ง ออกเป็น
    : เสื้อคลุมยาวธิเบตแบบผู้ชาย
    : เสื้อคลุมยาวธิเบตแบบผู้หญิง จะแคบหน่อย มีทั้งแบบมีแขนเสื้อ และแบบไม่มีแขนเสื้อ
  2. เสื้อเชิ้ต ธิเบต แบ่งออกเป็นผู้ชาย โดยทั่วไปเป็นสีขาว ปกคอเสื้อสูง มีกระดุม 

    ผู้หญิง เป็นลายดอก คอปกพลิกกลับลงมา ไม่มีกระดุม แต่แขนเสื้อยาวกว่าแบบ ผู้ชายมาก

    ชุดลำลอง แบ่งออกเป็น
    ผู้ชาย
     แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนบนเป็นเสื้อ ส่วนล่างเป็นกางเกง เสื้อค่อนข้างสั้น และเล็กหน่อย โดยทั่วไปเป็นสีดำ และสีขาว
    • ผู้หญิง มีเสื้อติดกระดุมที่หน้าอกชิ้น เดียวใช้ใส่ทับเสื้อคลุมยาว ชาวเมืองธิเบตนิยมใช้สิ่งทอขนสัตว์ชิ้น สูงมาทำเสื้อคลุมยาว
    • ในเขตเกษตรกรรมนิยมใช้ ผูหลู่ (สิ่งทอขนแกะ หรือขนจามรี)
    • ในเขตประกอบการปศุสัตว์ นิยมใช้แกะ หรือขนสัตว์อื่นมาทำเพื่อป้องกันลมหนาว ในเวลากลางวัน และใช้แทนผ้าห่มในเวลากลางคืน
    • รองเท้าบูทธิเบตมีหลายชนิด โดยทั่วไปพื้น รองเท้าแข็งด้านข้างนิ่ม รองเท้าเป็นแบบ เรียบ ไม่มีส้น วัตถุดิบที่นำมาทำรองเท้าโดยทั่วไปจะเป็นผูหลู่ หรือหนังฟอก ส่วนด้านการใช้สี ค่อนข้างพิถีพิถัน หัวรองเท้ามีทั้งแบบเหลี่ยมกลม แหลม
    หมวกธิเบต ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง จะสวมหมวกที่ทำด้วยสักหลาด หรือขนสัตว์
    หมวกจินติ่งเม่า ทำด้วยผ้าสักหลาด เย็บประดับด้วยเส้นเงินเส้นทอง ปีกหมวกมีลักษณะเป็น สี่ด้าน ด้านหน้าและด้านหลังใหญ่ ส่วนด้านซ้ายด้านขวาเล็ก โดยทั่วไปประดับด้วยขนกระต่าย หรือขนน  ที่มา : http://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/07_11.html

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศอียิปต์

           
"เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ


          ชุดแต่งกายชาย (Jalabia) ที่มีเสื้อคลุมยาว (Camis) เป็นชุดยาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาว สวมหมวกทรงกลมใบเล็ก ทับด้วยผ้าคลุมศรีษะ มีเชือกสีดำครอบกันผ้าเลื่อนหลุดผ้าคลุม ชุดประกอบพิธีทางศาสนาประกอบด้วย ผ้าคลุมศรีษะและหมวกกะปิเยาะห์ นับได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการแต่งกายของชาวมุสลิม กะปิเยาะห์ เป็นหมวกของชาวมุสลิมสวมใส่ในการประกอบศาสนกิจ หรือประกอบพิธีละหมาด
             ชุดแต่งกายหญิง (Fostan) ที่มีผ้าคลุมหน้า (Nekap) เรียกว่า ฮิญาบ ภาษาอาหรับ คือผ้าคลุมศีรษะของผู้หญิงมุสลิมซึ่งศาสนาอิสลามระบุให้ผู้หญิงสวมผ้าคลุมผมจนปิดหน้าอก เพื่อเป็นการปกปิดร่างกายให้มิดชิด เป็นการสำรวม

 ที่มา:  http://interadegypt.blogspot.com/2010/08/blog-post_1081.html

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศศรีลังกา



           การแต่งกายเป็นสิ่งที่สำคัญต่อมนุษย์ทุกคน เพราะการแต่งกายจะบ่งบอกอะไรหลายๆอย่างในตัวของเรา แต่ละประเทศ แต่ละชุนเผ่าก็จะแต่งกายแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นการแต่งกายของประเทศศรีลังกา
            ศรีลังกา เป็นเกาะอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย อยู่ปลายใต้สุดของประเทศอินเดียมีโคลอมโบ เป็นเมืองหลวง เดิมศรีลังกาเป็นอาณานิคมของโปตุเกสและอังกฤษ ต่อมาได้เอกราชเปลี่ยนชื่อ เป็นสาธารณรัฐศรีลังกา ปกครองแบบสังคมนิยม สตรีชาวลังกาได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของโลก และเอเชีย คือ นางสิริ มาโวบันดาราไนยเก 

การแต่งกาย            หญิงชายชาวศรีลังกาจะแต่งตัวคล้ายกับชาวอินเดียมาก และมีเขตติดต่อกับอินโดนีเซีย จึงได้รับอิทธิพลทั้ง 2 ประเทศปะปนกัน แต่ผู้ชายจะมีวิธีการนุ่งผ้าไม่เหมือนกันทีเดียว จะนุ่งคล้าย โจงกระเบน


ที่มา:  http://www.baanjomyut.com/library_2/history_of_costume/07_9.html

วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศจอร์เรีย

             
           
   เสื้อผ้าชาติจอร์เจีย 4   ชุดประจำชาติจอร์เจีย 9         
     

             สำหรับการแต่งกายของประเทศจอร์เจียนะคะ "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ  
             เสื้อผ้าแห่งชาติจอร์เจียเป็นที่แพร่หลายจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ความหลากหลายของเครื่องแต่งกายสำหรับชั้นที่ร่ำรวยและยากจนจอร์เจียแบ่งลักษณะทั่วไป กล่าวคือ - ขีดเส้นใต้ความรุนแรงของเครื่องแต่งกายชายและความสง่างามและความสง่างามของเครื่องแต่งกายหญิง .
 ผู้หญิงจอร์เจียชุดประจำชาติ
                     เสื้อผ้าสตรีแห่งชาติในจอร์เจียเป็นต้นฉบับมาก มันเป็นชุดยาวรัดรูป "Kartuli" นั่งเสื้อท่อนบนแน่นว่าตัวเลขที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยถักเปีย, ลูกปัดและหินและกระโปรงยาวกว้างมากสมบูรณ์ครอบคลุมเท้า คุณลักษณะที่จำเป็นเป็นเข็มขัดที่ทำจากผ้ากำมะหยี่หรือผ้าไหม, ขอบตกแต่งอย่างหรูหราด้วยการเย็บปักถักร้อยและไข่มุกและถูกลดลงไปข้างหน้า.
                 ระดับร่ำรวยจอร์เจียสวมชุดที่ทำจากผ้าที่นำเข้ามีราคาแพง -. ผ้าไหมหรือผ้าซาตินสีแดง, สีขาว, สีฟ้าหรือสีเขียว
                  เสื้อผ้าสตรีชั้นนำของจอร์เจียที่เรียกว่า "Katib" เป็นส่วนใหญ่ทำจากกำมะหยี่ด้านล่างถูกผ้าขนสัตว์ผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมซับ.
  หมวกและเครื่องประดับ
                  ในฐานะที่เป็นผ้าโพกศีรษะจอร์เจียทำหน้าที่ "LeChaka" - ผ้าคลุมสีขาวของ Tulle และ "ฉัน" - เพื่อรักษาความปลอดภัยฝารอบศีรษะ เหนือสวมผ้าพันคอสีเข้ม "แบก" หรือใหญ่ "ม่าน" ซึ่งเป็นเพียงดวงตามองเห็น.
                   "แบกห์ดา "และ" LeChaka "ได้รับการแก้ไขบนหัวด้วยความช่วยเหลือของขอบและได้อย่างอิสระวางอยู่บนหลังและไหล่ของเขาช่วยให้ผมมองออกไปด้านหน้าที่มีความสวยงาม ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วนอกจากนี้ยังมีที่ปลายด้านหนึ่ง "LeChaka" คอปิด.
                    ที่อุดมไปด้วยจอร์เจียเป็น "Cauchy" - รองเท้าที่ไม่ได้มีฉากหลังมักจะอยู่บนส้นเท้าที่มีปลายแหลมโค้งงอ จอร์เจียที่ไม่สามารถอวดของรายได้เป็น "Kalamanov."
                    รองเท้าที่ทำจากหนัง เครื่องประดับแฟชั่นมีปะการังหรือสีเหลืองอำพัน จากการแต่งหน้าจอร์เจียใช้สีแดงและเฮนน่าและผมสีดำและคิ้ว.
ที่มา:  http://ecowoman-taiskiy.tk/articles.php?id=31312

วัฒนธรรมการแต่งกายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์



               
   "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ

        ชาวเอมิเรตส์ให้ความสำคัญกับครอบครัว การแต่งงานและเด็กๆ ที่เป็นรากฐานของสังคม  การต้อนรับเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งในดูไบ โดยเฉพาะสำหรับคนแปลกหน้าหรือผู้มาใหม่ แม้ว่าชาวดูไบที่สูงอายุมักยึดถือประเพณีดั้งเดิมอย่างเคร่งครัด  ไม่ต้องแปลกใจหากคุณได้รับเชิญให้ร่วมทานน้ำชากับครอบครัวชาวเอมิเรตส์ และเมื่อคุณซื้อพรมหรือเพชรพลอย ชาของคุณได้รับการจัดเตรียมก่อนคุณจะมาถึง ตามมารยาทคุณควรรับการต้อนรับนี้   ศาสนาอิสลามอยู่คู่กับสังคมชาวเอมิเรสต์มาอย่างแนบแน่น ชาวมุสลิมเชื่อว่าคัมภีร์อัลกุรอานคือพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้า ที่ให้แนวทางด้านจริยธรรมและการดำเนินชีวิตไว้อย่างครอบคลุม ด้วยเหตุนี้ คัมภีร์อัลกุรอานจึงมีความศักดิ์สิทธิ์และต้องแสดงความเคารพอย่างเคร่งครัด แม้สังคมอาหรับในดูไบจะเปิดกว้าง แต่ทว่าประเพณีมุสลิมในดูไบยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

     ที่มา:https://www.iam-tour.com/country_info/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%9A/

วัฒนธรรมการแต่งการประเทศอาเซอร์ไบจาน


การแต่งกายประเทศอาเซอร์ไบจาน ไม่มีข้อมูลให้ทราบเกี่ยวกับวัฒนธรรมการแต่งกายคะ



             ชาวอาเซอร์ไบจานเป็นคนสนุกสนานร่าเริงและอบอุ่น. ครอบครัวก็รักใคร่กลมเกลียวกันและญาติพี่น้องสามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ในยามทุกข์ยาก.ชาวอาเซอร์ไบจานเป็นคนเคร่งศาสนาและชอบพูดคุยเรื่องพระเจ้า. ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม. นอกจากนั้น ยังมีคนที่นับถือศาสนาอื่นๆ เช่น พยานพระยะโฮวา ซึ่งมีอยู่ไม่น้อยกว่าพันคนและส่วนใหญ่เป็นชาวอาเซอร์ไบจานดั้งเดิม.
ที่มา: https://www.jw.org/th/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%8C/%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3/g201307/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%99/

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศจอร์แดน

                  สำหรับการแต่งกายในประเทศจอร์แดนนะค่ะเป็นประเทศที่อยู่กลุ่มอาหรับ มีอยู่ด้วยกันหลายประเทศ คือ คูเวต อิรัก อิหร่าน จอร์แดน ซีเรีย ดูไบ เยเมน และซาอุดิอาระเบีย พื้น ที่ส่วนมากเป็นทะเลทราย อากาศจะร้อนที่สุดในโลก และยังพบ แหล่งน้ำมันซึ่งทำรายได้ให้ประเทศมากที่สุด เชื่อในพระเป็นเจ้าคือ อัลเลาะห์แต่ องค์เดียว ที่เมืองนี้ได้สร้างเป็นมหาวิทยาลัยของอิสลามขึ้น และชนอิสลามต่างจะไปทำพิธีฮัจญ์ที่นั่น ปัจจุบันอิสลามเป็นกฎหมายปกครองประเทศ เพราะฉะนั้นการแต่งกายจึงคล้ายกันค่ะ

การแต่งกาย
       ชุดประจำชาติเป็นชุดยาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาว สวมหมวกทรงกลมใบเล็ก ทับด้วยผ้าคลุมศรีษะ มีเชือกสีดำครอบกันผ้าเลื่อนหลุด บางประเทศในโอกาสหรือพิธีสำคัญจะมีสวมใส่เสื้อคลุมเนื้อบางสีดำเดินขอบด้วยแถบสีทองแต่ประเทศ เช่น อิรัค ใช้สวมใส่ประจำวันรายละเอียดของเสื้อผ้าและเครื่องประกอบการแต่งกายมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศเนปาล

     วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศเนปาล
        สำหรับการแต่งกายของประเทศเนปาลนั้นนะค่ะ มีความสัมพันธ์กับธิเบต และอินเดียมานานแล้ว ฉะนั้น การแต่งกายของ ชาวเนปาลจึงได้รับวัฒนธรรมบางส่วนมาจากอินเดีย และบางส่วนมาจากจีน ประกอบด้วยภูมิอากาศ ของเนปาลจะหนาว เครื่องแต่งกายจึงมีหลายชิ้น

การแต่งกายของสตรี นุ่งกระโปรงยาวคร่อมเท้า ห่มสาหรี่ เครื่องประดับงดงามมีสีสัน ใน ฤดูหนาวจะใส่เสื้อผ้าขนสัตว์ซึ่งทอเอง ตัวยาวถึงข้อเท้า มีผ้าลักษณะคล้ายผ้ากันเปื้อนสีสวย 2 ชิ้น คาดข้างหน้า และข้างหลัง

ผู้ชาย นุ่งกางเกงขายาว สวมเสื้อตัวยาว แขนยาว บางคนสวมเสื้อกัก สีต่าง ๆ โพกผ้า เหมือนชาวอินเดีย
การแต่งกายของชาวเนปาล

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศบังกลาเทศ


            สำหรับ "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ

                   บังคลาเทศ มีชื่อเต็ม คือ สาธารณรัฐประชาชนบังคลาเทศ บังคลาเทศมีภูมิประเทศที่ ตั้งอยู่ในความโอบล้อมของอินเดีย ฉะนั้น เรื่องการแต่งกายจึงมีแบบอย่างที่เหมือนกัน                  การแต่งกายของผู้หญิงจะแต่งกาย และเครื่องประดับต่าง ๆ ไม่แตกต่างกับหญิงอินเดีย แต่การแต่งกายของชายไม่เหมือนชาวอินเดีย ผู้ชายจะนุ่งผ้าโสร่ง และสวมเสื้อคลุมมีแถบที่ชาย แขนเสื้อ และชายเสื้อ สวมหมวกทรงสูง ไว้หนวดเคราเหมือนชายอินเดีย



วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศซีเรีย



                 สำหรับชาวประเทศซีเรีย สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน คือการธำรงรักษาเอกลักษณ์ของตนเองได้อย่างเข้มแข็ง ทั้งการดำเนินชีวิตตามหลักการของศาสนา วัฒนธรรมและประเพณี การมีแนวปฏิบัติในแบบเดียวกัน ไม่ว่าชาวมุสลิมนั้นจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตาม
          นอกจากนี้ วิถีชีวิตภายใต้หลักคำสอนทางศาสนา ยังได้สะท้อนถึงศิลปะ งานหัตถกรรมต่าง ๆ ที่อาจจะเกี่ยวเนื่องหรือไม่เกี่ยวเนื่องกับหลักคำสอน แต่มีความโดดเด่น มีเรื่องราวและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ของผู้ที่นับถืออัลเลาะห์เป็นพระเจ้า 

             ในงานนิทรรศการ "หัตถกรรมในวัฒนธรรม "มุสลิม" ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดโดยศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ และศูนย์อิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้นำเสนอศิลปะและหัตถกรรมแขนงต่าง ๆ ที่สะท้อนตัวตนของชาวมุสลิม โดยเฉพาะ "ผ้า" และ "เครื่องแต่งกาย" ที่บ่งบอกอัตลักษณ์ความเป็นมุสลิมได้อย่างชัดเจนที่สุด ชาวมุสลิมมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับผ้าตั้งแต่เกิดจนตาย นอกจากจะใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ในพิธีเกิดชาวมุสลิมโดยเฉพาะทางตอนใต้ของไทย จะมีการจัดเตรียมผ้าให้แก่เด็กนับตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ซึ่งก็คือ "ผ้าบือดัง" หรือผ้าอ้อม ผ้าพันตัว ใช้พันตัวเด็กเพื่อให้เด็กมีขาทั้งสองข้างตรง และเพิ่มความอบอุ่นให้เหมือนอยู่ในครรภ์มารดา ผ้าบือดังจะเป็นผ้าฝ้ายขาวหรือสีอ่อน หากครอบครัวใดยากจนอาจจะใช้ผ้าถุงเก่าของมารดามาทำผ้าบือดังในพิธีงานศพ ผ้าก็เป็นส่วนสำคัญในประเพณีนี้เช่นกัน "ผ้ากายน์บือละ" จะเป็นผ้าขาวบาง ๆ ใช้คลุมปิดศพไว้เมื่อศพตายใหม่ ๆ เพื่อเป็นการให้เกียรติ ภายหลังทำความสะอาดศพแล้วจะใช้ "ผ้ากะฝั่น" เป็นผ้าขาวที่ไม่บางและไม่หนาเกินไป 3 ผืนห่อศพเอาไว้ โดยห่อ 3 ชั้น จากนั้นในการเคลื่อนย้ายศพไปละหมาดที่มัสยิดและฝัง ณ กุโบร์ จะใช้ผ้ากำมะหยี่สีดำ หรือน้ำเงินเข้ม หรือเขียวเข้ม ปักลวดลายศิลปะอิสลาม มีอักษรภาษาอาหรับเป็นคำในอัลกุรอานเป็นสีทอง เรียกว่า "ผ้าคลุมมายัด" คลุมศพหรือโลงศพ ซึ่งถ้าเป็นชาวมุสลิมที่เคยประกอบพิธีฮัจญ์มาแล้ว อาจใช้ "ผ้าเอี๊ยะรอม" หรือ "ผ้าแฮแร" คลุมศพ โดยผู้มีฐานะดีอาจใช้ผ้า "ซอแก๊ะ" หรือผ้ายกทอง คลุมศพ


         

วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศคีร์กีซสถาน

            "เสื้อผ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือให้ความอบอุ่นเท่านั้น เสื้อผ้ายังสะท้อนถึงเอกลักษณ์ คุณค่า ความเป็นมา กระบวนการต่างๆ และถูกหลอมรวมจนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของ แต่ละประเทศ

                คีร์กีซสถาน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐคีร์กีซ เป็นประเทศในเอเชียกลาง มี
พรมแดนติดกับสาธารณรัฐประชาชนจีน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน เป็นประเทศที่
ไม่มีทางออกสู่ทะเล เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดมีชื่อว่าบิชเคก (เดิมเรียกว่า ฟรุนเซ) คีร์กีซ
สถานเดิมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
   การแต่งกายของชาวคีร์กีซสถาน
สวมเสื้อคลุมยาวและมีหมวกประจำชาติใส่ทุกคน



วัฒนธรรมการแต่งกายประเทศสาธารณรัฐจีน

  " เสื้อผ้า ” เป็นหนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐาน ที่สำคัญของมนุษย์ทุกคน แต่เสื้อผ้าไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่ง ที่นำมาปกปิดร่างกายหรือ...